Eindhoven, The Netherlands
วันนี้ขอเล่าเรื่องเมืองที่ออยพักอยู่ค่ะ ชือเมือง Eindhoven อยู่ทางตอนใต้่ของประเทศเนเธอร์แลนด์ เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับที่ห้าของประเทศ เป็นเมืองที่อยู่ในจังหวัด North Brabant มีประชากรประมาณ 200,000 คน ถือว่าเป็นเมืองเล็กๆ ถ้าเอามาตรฐานกรุงเทพฯ มาวัด แต่สำหรับคนดัชท์เเล้ว นี่ถือเป็นเมืองขนาดกลางเลยทีเดียว เมื่อได้มาอยู่ มาสัมผัส Eindhoven อยากเรียกเมืองนี้ว่า “เมือง Philips” เสียจริงเชียว เนื่องจากผู้ก่อตั้งคือ คุณ Gerard และ Anton Philips ได้ก่อตั้งบริษัท Philips ขึ้นที่เมืองนี้ มา Eindhoven ก็จะเห็นสิ่งก่อสร้าง หลายอย่างที่เป็นของ Philips รวมถึงรูปปั้นของผู้ก่อตั้งด้วย สิ่งก่อสร้างที่โดดเด่นเป็นสัญลักษณ์ของเมือง คือ อาคาร “White Lady” เมืื่อก่อนเป็นอาคารของบริษัท Philips แต่ปัจจุบัน แฟนบอกว่า บริษัท Philips ย้ายออกจากเมือง ไปตั้งสำนักงานใหญ่ที่กรุงอัมเตอร์ดัมแล้ว ดังนั้น อาคาร White Lady ในปัจจุบันจึงเป็นสำนักงานของบริษัทอื่นๆ ฝั่งตรงข้ามอาคาร White Lady ก็คือสถานีตำรวจ ที่ออยจะต้องไปรายงานตัวทุกครั้ง เมื่อเข้ามาประเทศเนเธอร์แลนด์ ใกล้ๆ กันนั้นก็จะเป็นย่าน shopping มีตลาดนัดด้วยนะ รู้สึกว่าจะทุกๆ วันจันทร์ อาคาร White Lady ย่าน…
ชะโงกทัวร์ Leeuwarden – Harlingen – Afsluitdijk – Den Helder (one day trip)
เมือเดือนกุมภาพันธ์ มีโปรโมชั่น dagkaart ตั๋ววันของรถไฟ ราคา 16 ยูโร สามารถเดินทางในวันธรรมดา ได้ตั้งแต่ช่วงเวลา 9.00 – 16.00 น. และ หลัง 18.30 น. เป็นต้นไป ส่วนวันเสาร์ – อาทิตย์ สามารถเดินทางได้ทั้งวัน ไปที่ไหนก็ได้ภายในประเทศนี้ด้วยรถไฟ ในราคาเพียง 16 ยูโร (โปรโมชั่นตั๋ววัน ของรถไฟแบบนี้ จะมีมาทั้งปีค่ะ โดยหมุนเวียนร้านค้าที่ขายตั๋วไปเรื่อยๆ ค่ะ เราสามารถติดตามความเคลื่อนไหวว่า จะต้องไปซื้อที่ไหน เงื่อนไขการใช้ต่างๆ ที่เวปไซค์นี้ค่ะ http://www.treinreiziger.nl/reizen/kortingsacties ) ด้วยโปรโมชั่นดีๆ แบบนี้ ประกอบกับออยและสามีมีวันว่าง ประกอบกับออยมาอยู่ประเทศนี้ใกล้จะสองปีแล้ว แต่ยังไม่เคยเห็นทะเลดัตช์เลย เรื่องนี้ต้องเเก้ไขค่ะ สามีเลยพาเที่ยวทะเล (เที่ยวทะเลเดือนกุมภาพันธ์ ที่อากาศยังหนาวอยู่นี่ ไม่ต้องหวังจะอาบเเดด หรือได้ว่ายน้ำทะเลนะคะ หวังแค่ได้เห็นทะเลก็พอ 555) เริ่มต้นด้วยการออกเดินทางแต่เช้ามืดเลยค่ะ (กะจะใช้ตั๋ววันให้คุ้ม) นั่งรถไฟ intercity ไปลงที่เมือง Leeuwaden ก่อนจะเปลี่ยนรถไฟเพื่อไป Harlingen เราก็ขอลงเดินทั่วๆ เมือง Leeuwaden สักนิดค่ะ Leeuwaden เป็นเมืองหลวงของจังหวัด Friesland อยู่ทางภาคเหนือของประเทศเนเธอร์แลนด์ ค่ะ (เมืองหลวงของจังหวัด ก็คล้ายๆ กับอำเภอเมือง ถ้าเทียบกับประเทศไทย) จังหวัด Friesland นี่เขามีภาษาพูดของเขาเองด้วยนะคะ มีธงชาติของเขาเองด้วย…
ท่องไปในป่า : Stratumse Heide
ได้มีโอกาสเที่ยวป่าในฮอลแลนด์ค่ะ เมื่อเดือนตุลาคม ปีที่แล้ว เลยเอาภาพมาให้ชมกัน ตอนนั้น เป็นช่วงย่างเข้าฤดูใบไม้ร่วง ป่าที่ไปเดิน ก็อยู่ใน Eindhoven ค่ะ เป็นป่าที่กว้างใหญ่มาก สามารถทะลุไปยังเบลเยี่ยมได้ มีทริปที่คนดัตช์เขาปั่นจักรยานไปเบลเยี่ยม โดยผ่านป่าแห่งนี้กันด้วยค่ะ แต่เนื่องจากออยปั่นจักรยานไม่เป็น แหะ แหะ… ก็เลยต้อง เดิน กันล่ะค่ะ เดินออกจากบ้านตอนเย็น ประมาณบ่ายสี่โมง แฟนบอกว่าไม่ไกล เดินซักครึ่งชั่วโมงก็ถึง แต่พอเดินจริง ปาเข้าไปเป็นชั่วโมงจึงจะถึงพื้นที่ที่เป็นป่า!!! (สงสัยอีครึ่งชั่วโมง ที่พี่แกว่า คือปั่นจักรยานน่ะ) ป่าที่เราจะไปเที่ยวกันวันนี้ มีชื่อเรียกว่า ป่า Stratumse ค่ะ และมีพื้นที่ที่เป็นไฮไลท์ของป่านี้คือ Stratumse Heide ที่มา www.brabantslandschap.nl เดินป่าในต่างประเทศไม่ค่อยน่ากลัวค่ะ ป่าค่อนข้างไม่รก ไม่เหมือนบ้านเรา ต้นไม้ของเขามีไม่กี่ชนิด และส่วนใหญ่เป็นไม้ยืนต้นสูง ที่สำคัญบ้านเขาไม่มีงู หรือทาก หรือสัตว์เลื้อยคลานอันตรายอะไรทั้งนั้น แต่ก็ต้องระวังหลงนะคะ เพราะความที่มันดูเหมือนๆ กันไปหมด แถมไม่มีป้ายอะไรบอกทางชัดเจนด้วย สภาพป่าของเขาค่ะ มีทางเดินโล่งๆ ไม่น่ากลัวอะไร มีวิวประมาณนี้ไปตลอด 1 ชั่วโมงที่เดินเลยค่ะ ต้นสน (มั้งคะ) เห็นสวยดี เลยถ่ายมา ระหว่างทาง เห็นมีคนวิ่งออกกำลังกายในป่านี้ด้วยค่ะ มองบนต้นไม้บ้าง ช่วงที่ไปนั้น กำลังย่างเข้าฤดูใบไม้ร่วงค่ะ จะเห็นว่าต้นไม้บางต้น ใบเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลืองบ้างแล้ว เดินผ่านป่าที่เห็นในรูปไปประมาณ 1 ชั่วโมงค่ะ ได้เหงื่อพอควรเลย โชคดีที่ตอนนั้นอากาศหนาว จึงไม่ถึงกับไม่ไหว…
เทศกาลดอกไม้ Floriade2012 (2)
มาถึงตอนที่ 2 กันค่ะ สำหรับเทศกาลดอกไม้ Florade ของประเทศเนเธอร์แลนด์ อย่างที่เคยเล่าให้ฟังว่า คนประเทศนี้เขารักดอกไม้กันมาก ดังนั้นงานในครั้งนี้จึงได้รับความสนใจจากคนดัตช์มากเลยทีเดียว เนื้อที่การจัดงานก็กว้างใหญ่มาก ประมาณ 65 เฮกเตอร์ ส่วนแนวคิดหรือธีมในงานครั้งนี้ ก็คือ “Be part of the theatre of nature, get closer to the quality of life” แปลเป็นไทยกากๆ ได้ประมาณว่า “ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโรงละครแห่งธรรมชาติ ได้ใกล้ชิดกับคุณภาพแห่งชีวิต” ความเดินตอนที่เเล้ว หลังจากที่เดินกันเมื่อย เราก็นั่งเคเบิ้ลคาร์กัน แล้วเราก้มาตระหนักเอาอีกตอนทางลง ว่าเคเบิ้ลคาร์อันนี้ ทุกคนต้องลง และหากจะกลับก็ต้องซื้อตั๋วใหม่ อ้าว… มันไม่ได้ใกล้ๆ นา เหตุผลที่เราอยากกลับไปที่เดิม ก็เพราะเราอยากเดินไปดูอาคาร Green Engine ซึ่งภายในอาคารนี้ จะมีดอกกล้วยไม้สวยๆ มาแสดง และมีสวนของประเทศไทยอยู่ด้วย… เซ็งเลย ดอกกุหลาบสีสวย ถ่ายตรงจุดลงจากเคเบิ้ลคาร์ค่ะ สวนแบบดัตช์ค่ะ แฟนเรียกว่า “Chaos Garden” เขาตั้งใจให้เป็นแบบนี้นะคะ มันมาจากการเอาเมล็ดพันธ์ดอกไม้หลายๆ ชนิดมาผสมกัน แล้วหว่านลงบนพี้นดิน ซึ่งแตกต่างจากสวนแบบไทยที่เราคุ้นเคย ที่ดูจะเป็นระเบียบกว่า แปลงดอกอะไร ก็มีแต่ดอกชนิดนั้น แต่แบบนี้ ฝรั่งเขามองว่าสวยค่ะ ดูเป็นธรรมชาติดี กระถางดอกไม้ที่จัดแสดงในอาคาร Green Engine ค่ะ สวยมาก ดอกกล้วยไม้ที่จัดภายในอาคาร…
