วีซ่าของเนเธอร์แลนด์มีแค่ 2 ประเภทค่ะ คือ
1. วีซ่าท่องเที่ยว หรือที่เรียกว่า เชงเก้นวีซ่า
2. วีซ่าระยะยาว หรือเรียกว่า MVV่
ข้อแตกต่างสำคัญของวีซ่าทั้งสองประเภทนี้ คือ เชงเก้นวีซ่า จะสามารถเที่ยวได้ทั่วกลุ่มประเทศเชงเก้น ประกอบไปด้วย 25 ประเทศในยุโรปค่ะ ซึ่งมีประเทศอะไรบ้างนั้น คลิกดูได้ที่นี่เลยค่ะ http://www.vfsglobal.com/netherlands/thailand/thai/allaboutyourvisas.html นักท่องเที่ยวจะสามารถเที่ยวอยู่ในประเทศเหล่านี้ ได้ไม่เกิน 90 วันต่อครั้งค่ะ (ถึงเเม้ว่าจะได้วีซ่ามีอายุมากกว่า 90 วันก็ตาม) แล้วเมื่อเที่ยวครบ 90 วัน และออกจากกลุ่มประเทศเชงเก้นแล้ว จะไม่สามารถขอวีซ่ากลับเข้าไปได้ทันทีนะคะ ต้องรออีก 90 วันก่อน ถึงจะบินเข้าไปได้อีก (บินเข้าติดๆ กันเกินไป ก็ไม่ใช่นักท่องเที่ยวแล้วสิคะ ตม. เขาก็รู้น่า)
ส่วน MVV เป็นวีซ่ามีจุดประสงค์สำหรับอยู่อาศัยในฮอลแลนด์ระยะยาว ดังนั้นตั๋วเครื่องบินเราต้องมาลงที่ฮอลแลนด์เท่านั้น จะไปแวะเที่ยวปารีสก่อนไม่ได้นะคะ (แต่อาจอนุโลมให้ลงที่ประเทศเพื่อนบ้านได้ หากสะดวกกว่าเรื่องระยะทางของบ้านที่เราจะพำนักมากกว่า)
บทความนี้ เราจะมากล่าวถึงการขอวีซ่าท่องเที่ยว ที่สถานทูตเนเธอร์แลนด์ประจำประเทศไทยค่ะ มีขั้นตอนประมาณนี้
1. วางแผนก่อนค่ะ ไปดาวน์โหลดแบบฟอร์มเชงเก้นวีซ่า มาเขียนก่อนเลย และเตรียมเอกสารหลักฐานต่างๆ ให้พร้อม แบบฟอร์ม ดาวน์โหลดได้ที่เวปไซค์นี้ค่ะ http://www.government.nl/documents-and-publications/forms/2013/02/22/schengen-visa-application-form.html
ในกรณีนี้ มีสองสถานการณ์ค่ะ สำหรับนักท่องเที่ยวอย่างเรา คือไปเอง ใช้เงินตัวเอง หรือ ไปหาแฟน สามี เพื่อน และจะไปพักอยู่กับเขา โดยเจ้าบ้านอาจจะเป็นสปอนเซอร์ให้ทั้งที่พัก อาหารการกิน หรือให้แค่ที่พักอย่างเดียว
ถ้าอยู่ในเหตุเเรก คือไปเที่ยวเอง ดูแลตัวเอง ก็จองที่พักเลยค่ะ เตรียมหลักฐานทางการเงินได้เลยค่ะ
แต่ถ้าอยู่ในสถานการณ์ที่สอง ต้องให้เจ้าบ้าน ไปขอจดหมายเชิญมาก่อนค่ะ ดาวโหลดฟอร์มได้จากลิงค์นี้เลยค่ะ https://ind.nl/documents/1310.pdf กรอกแล้วเอาไปประทับตราที่ town hall ได้เลยค่ะ แต่ถ้าผู้เชิญขณะนั้นอยู่เมืองไทย (และจะเดินทางไปฮอลแลนด์ด้วยกัน) ก็เอาฟอร์มนี้ไปประทับตราที่สถานทูตก่อนได้เลยค่ะ – ฟอร์มนี้จะดูว่า ผู้เชิญเป็นเจ้าของบ้านจริง และเชิญเรามาพักบ้านเขา และถ้าหากผู้เชิญเป็นเจ้าของบ้านที่แต่งงานแล้ว แบบฟอร์มนี้จะต้องให้คู่สมรสเซ็นต์ยินยอมด้วยนะคะ
เอกสารที่ต้องใช้ของฝ่ายผู้เชิญ
1) ใบเชิญที่มีตราประทับจาก town hall
2) จดหมายอธิบายความสัมพันธ์ คือผู้เชิญกับผู้ถูกเชิญรู้จักกันได้อย่างไร เป็นอะไรกัน ทำไมถึงเชิญ
3) สำเนา passport ของผู้เชิญ ถ้าผู้เชิญเป็นแฟน ก็แสดงหน้า passport ที่ฝ่ายชายเคยมาเมืองไทย ก็ดีนะคะ จะได้แสดงให้สถานทูตทราบว่าทั้งคู่เคยเจอกันตัวเป็นๆ
4) หลักฐานทางการเงินของผู้เชิญ (ในกรณีที่ผู้เชิญเป็นผู้สนับสนุนค่าใช้จ่ายทั้งหมด)
เอกสารที่ต้องใช้ของผู้ถูกเชิญ
1) passport ตัวจริง และสำเนา (passport ต้องมีอายุเหลือมากกว่า 6 เดือน)
2) รูปถ่ายขนาด 2 นิ้ว สองรูป
3) แบบฟอร์มขอวีซ่า ดาวน์โหลดได้จากลิ้งค์ข้างบนเลยค่ะ
4) ใบจองตั๋วเครื่องบิน
5) ประกันการเดินทาง ดูรายชื่อบริษัทประกันที่สถานทูตรับรองได้ที่ http://thailand.nlembassy.org/appendices/products_and_services/consular_services/visa_application_in_thailand/list-of-travel-insurance-companies.html (ประกันต้องมีวงเงินขั้นต่ำ 1,5oo,ooo บาทค่ะ
6) ใบรับรองการทำงานค่ะ เพื่อยืนยันว่า เราไปเที่ยวแล้วจะกลับมาเมืองไทยแน่นอน (จากประสบการณ์ เหมือนถ้ามีผู้เชิญที่สนับสนุนค่าใช้จ่ายทั้งหมด หากไม่มีข้อนี้ เพราะไม่ได้ทำงาน วีซ่าก็จะผ่านค่ะ ถ้าผู้เชิญมีคุณสมบัติครบถ้วน เหมือนเขาจะไว้ใจคนของเขา และถ้าคนที่ถูกเชิญหนีวีซ่า ทางการดัตช์สามารถปรับเงินผู้เชิญได้ ดังนั้นผู้เชิญจะต้องคิดให้หนักเลยค่ะ ก่อนจะเชิญใคร)
* อย่าลืมทำสำเนาของเอกสารเหล่านี้ ไว้สัก 1 ชุดนะคะ เอาติดตัวขึ้นเครื่องไปด้วย เผื่อ ตม.ดัตช์ถามหา (จากประสบการณ์ เคยเหงื่อตกมาแล้วค่ะ เมื่อ ตม.ดัตช์ ถามหาตั๋วเครื่องบินเที่ยวกลับ ซึ่งเอกสารเหล่านั่น ดันเก็บไว้ในกระเป๋าใบใหญ่ โหลดใต้ท้องเครื่อง)
2. ทำการนัดหมายเพื่อสัมภาษณ์วีซ่าค่ะ ทำตามขั้นตอนในลิ้งค์นี้เลยค่ะ ชัดเจนดีอยู่เเล้ว http://www.vfsglobal.com/netherlands/thailand/thai/tourist.html วันสัมภาษณ์ควรก่อนวันเดินทางสัก 15 วันนะคะ เผื่อเหลือเผื่อขาด
3. เมื่อถึงวันนัดหมาย ก็เดินทางไปสถานทูตด้วยตัวเองเลยค่ะ สถานทูตอยู่ตรงซอยต้นสนค่ะ แนะนำให้นั่งรถไฟฟ้าไปลงที่สถานีชิดลม สถานทูตอยู่ฝั่งตรงข้ามกับห้างเซ็นทรัลชิดลมค่ะ ดูแผนที่ทางออกได้จากแผนที่ทางออกของ BTS เลยค่ะ เดินเข้ามาในซอยต้นสนสัก 10 นาทีก็ถึง หรือจะนั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างเเถวนั้นเข้ามาก็ได้ค่ะ
ตอนสัมภาษณ์ ก็ตอบเจ้าหน้าที่ไปตามตรงค่ะ อย่าโกหก เพราะเจ้าหน้าที่เหล่านั้น มีประสบการณ์สูง เขาจับโกหกได้ไม่ยากค่ะ ดังนั้นตอบทุกอย่างตามจริง จะดีที่สุด และจริงๆ แล้ว เจ้าหน้าที่สถานทูตเขาออกแนวปกป้องเราด้วยซ้ำนะคะ เขากลัวเราถูกหลอกไปขายตัวที่โน้น หรือโดนหลอกไปทำอะไรไม่ดีต่างๆ
4. สัมภาษณ์เสร็จแล้วก็รอผลค่ะ โดยทั่วไปไม่นานค่ะ รอรับ passport ที่บ้านได้เลย ส่งถึงบ้านทางไปรษณีย์
5. หากผลวีซ่าคือผ่าน…ยินดีด้วยค่ะ เตรียมจัดกระเป๋าได้เลย
แต่หากวีซ่าไม่ผ่าน สถานทูตจะให้เหตุผลมาด้วยค่ะ ว่าทำไม่จึงไม่ผ่าน เราควรจะหาหลักฐานมาหักล้างเหตุผลเหล่านั่นก่อนที่จะอุธรท์ หรือยื่นขอวีซ่าใหม่อีกครั้งนะคะ ส่วนใหญ่เหตุผลที่ไม่ผ่าน คือ กลัวว่าเราจะหนีวีซ่า ไปแล้วไม่กลับไทย กับอีกเหตุผลคือ สถานะทางการเงินของผู้เชิญไม่ถึงเกณฑ์ที่กฏหมายกำหนดค่ะ