ทุกวันอังคารสัปดาห์ที่สามของเดือนกันยายน จะเป็นวัน Prinsjesdag ค่ะ — เป็นวันแถลงนโยบายและงบประมาณประจำปีของรัฐบาล
หลังจากที่เนเธอร์แลนด์อยู่ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี Mark Rutte มายาวนานนับสิบปี ปีนี้เป็นปีแรกที่งบประมาณประจำปีนำโดยนายกรัฐมนตรีคนใหม่ Dick Schoof
รัฐบาลใหม่ได้ประกาศตั้งแต่ตอนก่อตั้งแล้วว่า จะมีมาตรการควบคุมผู้ลี้ภัยและการอพยพที่เข้มงวดที่สุดเท่าที่เคยมีมา และจะอยู่ข้างเกษตรกรมากกว่าสิ่งแวดล้อมค่ะ จะผ่อนคลายความเข้มเรื่องการปล่อยออกไซต์ของไนโตรเจนที่ยุโรปบังคับ และเนเธอร์แลนด์เคยทะเยอทะยานที่จะทำให้ได้ดีกว่าที่ยุโรปต้องการในสมัยรัฐบาลที่แล้ว ซึ่งส่งผลให้เกษตรกรฟาร์มโคนม ฟาร์มปศุสัตว์บางรายอาจถึงต้องปิดกิจการ — แต่รัฐบาลใหม่จะไม่ทะเยอทะยานเช่นนั้น แต่จะเน้นเรื่องความมั่นคงทางอาหารมากกว่า
แต่อุปสรรคที่สำคัญคือ งบประมาณมีจำกัดค่ะ จึงไม่สามารถอุดหนุนทุกอย่างได้ ดังนั้นดูเหมือนนโยบายรัฐบาลใหม่นี้จะตัดงบด้านการศึกษา และการช่วยเหลือพัฒนาประเทศโลกที่สาม รวมถึงยังยืนยันที่จะขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มในหมวดสินค้าทางด้านวัฒนธรรม หนังสือ และกีฬา ในปี 2026 ค่ะ เพราะรัฐต้องการรายได้เพิ่มในส่วนนี้
งบประมาณ รายได้-รายจ่ายของรัฐ
ปีนี้รัฐตั้งงบประมาณแบบขาดดุลเล็กน้อยค่ะ อยู่ที่ 457 พันล้านยูโร จากในภาพเราจะเห็นว่าแหล่งรายได้ 3 อันดับแรกของรัฐมาจากภาษีรายได้ รองลงมาก็คือภาษีมูลค่าเพิ่ม (จากการจับจ่ายใช้สอยของเรานั่นเองค่ะ) อันดับที่สามของแหล่งรายได้ของรัฐ มาจากเบี้ยประกันสุขภาพค่ะ เราจ่ายให้บริษัทประกันสุขภาพทุกเดือน และบริษัทฯ จะนำส่งส่วนหนึ่งให้แก่รัฐ
รายจ่ายของรัฐส่วนใหญ่ในปี 2025 คือรายจ่ายด้านประกันสังคม เช่น เงินสงเคราะห์ต่างๆ ค่ะ เงินบำนาญผู้สูงอายุ เงินสงเคราะห์บุตร ฯลฯ และรายจ่ายด้านสุขภาพสาธารณสุข
รายจ่ายรองลงมาอันดับสามของรัฐคือ รายจ่ายให้กองทุนการปกครองส่วนท้องถิ่น เทศบาลและจังหวัด
รายจ่ายอันดับสี่ถัดมาคือ รายจ่ายให้แก่การศึกษา วัฒนธรรม และการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ค่ะ ส่วนรายจ่ายด้านกลาโหมตามมาเป็นลำดับห้าค่ะ
รายจ่ายของรัฐนี้ สะท้อนให้เห็นถึงการให้ความสำคัญของรัฐบาลค่ะ ว่าเน้นความสำคัญต่อภาคส่วนใดเป็นพิเศษ
นโยบายรัฐปี 2025 และผลกระทบ
ด้านสาธารณสุข
- เบี้ยประกันสุขภาพรายเดือน ปีหน้าจ่ายเดือนละ 156 ยูโรต่อเดือน <– นี่เป็นตัวเลขประมาณจากรัฐนะคะ ตัวเลขที่แท้จริงจะขึ้นอยู่กับบริษัทประกันสุขภาพซึ่งบริษัทเอกชน และแต่ละบริษัทจะประกาศตัวเลขเบี้ยประกันสุขภาพแพคเกจของบริษัทอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายน แต่นี่เป็นสัญญาณที่บอกให้รู้ค่ะว่า ปีหน้าจ่ายเบี้ยประกันรายเดือนเพิ่มขึ้นเฉลี่ยเดือนละ 10 ยูโร
- eigen risico ของปีหน้าจะยังอยู่ที่ 385 ยูโรเท่าเดิม แต่รัฐมีแผนที่จะลดเหลือ 165 ยูโร ภายในปี 2027 (🙋🏻♀️ ลด eigen risico เป็นเรื่องหนึ่งที่พรรค PVV หาเสียงไว้ค่ะ แต่ส่วนตัวมองว่า มันไม่ได้ช่วยลดภาระประชาชนเลย แต่เบี้ยประกันรายเดือนต่างหาก ที่ประชาชนที่ร่างกายแข็งแรง ทำงานได้เดือดร้อน เมื่อลด eigen risico แต่ไปขึ้นเบี้ยประกันรายเดือน คนทั่วไปก็เดือดร้อน …แต่นโยบายนี้ดีกับคนจน ที่สุขภาพแย่ค่ะ)
- จะเริ่มมีโปรแกรมฉีดวัคซีน RSV ให้แก่เด็กทารกค่ะ — RSV เป็นชื่อของไวรัสทางเดินหายใจตัวหนึ่ง ที่ไม่ทำอันตรายมากนักในผู้ใหญ่ แต่สำหรับเด็กทารกแล้ว อันตรายมาก เด็กบางคนป่วยถึงขั้นต้องเข้าโรงพยาบาล ใช้เครื่องช่วยหายใจเลย — วัคซีนนี้เพิ่งคิดค้นและได้รับอนุมัติความปลอดภัยค่ะ
- และต่อจากนั้น รัฐก็มีแผนจะฉีดวัคซีนชนิดใหม่ (วัคซีน Vaxneuvance) ที่ใช้ป้องกันโรคปอดอักเสบในผู้สูงอายุและผู้อ่อนแอด้วยค่ะ วัคซีนชนิดใหม่นี้ มีประสิทธิภาพดีกว่าวัคซีนแบบเก่า วัคซีนตัวนี้ฉีดให้เด็กทารกอยู่แล้วค่ะ
- ลดปัญหาการขาดแคลนบุคลากรโดยการใช้ AI เข้ามาช่วยในการจัดการด้านการบริหาร และจัดการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัล
- ป้องกันการทำตลาดของผลิตภัณฑ์ที่ไม่ดีต่อสุขภาพที่ทำการตลาดมุ่งไปที่ผู้ซื้อที่เป็นเยาวชน
- สร้างความเข้มแข็งให้แก่โรงพยาบาล สถานพยาบาลในส่วนภูมิภาค
- สร้างที่อยู่อาศัย 290,000 หลังสำหรับผู้สูงอายุ ภายในปี 2030
- เพิ่มเงิน 30 ล้านยูโร สำหรับจัดการปัญหาการรอคิวรักษาของผู้ป่วยด้านจิตเวช ผู้ต้องการการดูแลทางด้านสุขภาพจิต
ด้านการศึกษา
- ตัดทอนงบประมาณในด้านการศึกษาครั้งใหญ่ “ด้วยทางเลือกที่เฉียบแหลมและสมเหตุสมผล”
- ถึงจะตัดงบ แต่เงินอุดหนุนอาหารกลางวันยังอยู่ค่ะ เด็กเล็กยังจะได้รับอาหารกลางวันฟรีอยู่
- เนื่องจากปีหน้ารัฐจะขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มหนังสือ หนังสือเรียนจะแพงขึ้น ดังนั้นจะมีงบชดเชยตรงส่วนนี้ให้ค่ะ
- ปรับปรุงทักษะพื้นฐานทางด้านการศึกษา และแก้ปัญหาการขาดแคลนครูด้วยแผนฟื้นฟู
- เพื่อป้องกันไม่ให้โรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่ประชากรบางเบาต้องปิดตัวลง รัฐจะให้เงินอุดหนุนสำหรับโรงเรียนนั้นค่ะ
- ขึ้นราคาค่าเรียน และลดจำนวนนักศึกษาต่างชาติ
การลี้ภัย และการอพยพ
- ประกาศ “วิกฤติผู้ลี้ภัย – asielcrisis” เพื่อที่จะได้ใช้ช่องว่างในพระราชบัญญัติคนต่างด้าว — เนื่องจากเนเธอร์แลนด์จะต้องปฏิบัติตามกฎการลี้ภัยของยุโรป ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายในพระราชบัญญัติคนต่างด้าว ปี 2000 แต่กฎหมายนี้มีข้อยกเว้นไว้ว่าถ้ามี “สถานการณ์พิเศษ ฉุกเฉิน” รัฐมนตรีสามารถยกเลิกไม่เข้าร่วมกับกฎนี้ได้ และการประกาศภาวะฉุกเฉินวิกฤติผู้ลี้ภัยนี้ ทำให้รัฐมนตรีสามารถออกมาตรการต่างๆ เพิ่มเติมเพื่อควบคุมผู้ลี้ภัยได้โดยไม่จำเป็นต้องขอความเห็นชอบจากรัฐสภา
- รัฐบาลจะส่งคำขออย่างเป็นทางการไปยังสหภาพยุโรปค่ะ เพื่อขอ “opt-out” เนเธอร์แลนด์จะขอยกเว้นไม่อยู่ในกฎการขอลี้ภัยของอียู แต่นี่เป็นเพียงการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์เท่านั้นเองค่ะ ว่าถ้าอียูมีการออกกฎหมายใหม่ที่เกี่ยวกับการอพยพ เนเธอร์แลนด์ออกตัวบอกไว้ก่อนเลยว่าจะไม่ขอเข้าร่วม
- การรวมครอบครัว (Gezinshereniging) จะทำได้ก็ต่อเมื่อผู้อพยพมีงานทำและมีบ้านอยู่อาศัย และต้องอาศัยอยู่ในเนเธอร์แลนด์มามากกว่าสองปี — Gezinshereniging คือเวลาผู้อพยพข้ามน้ำข้ามทะเลมาฮอลแลนด์ มักจะมาแค่หัวหน้าครอบครัวแค่คนเดียวก่อนน่ะค่ะ พอเขาได้สถานะผู้ลี้ภัยที่นี่แล้ว ก็จะทำเรื่องขอให้ครอบครัว ลูกเมียมาอยู่รวมกันที่เนเธอร์แลนด์ค่ะ ปกติผู้ลี้ภัยจะได้สิทธินี้โดยอัตโนมัติค่ะ — แต่ต่อไป ผู้ลี้ภัยต้องอยู่เนเธอร์แลนด์อย่างน้อยสองปี และพร้อมทางด้านที่อยู่อาศัย และหน้าที่การงานในเนเธอร์แลนด์ก่อนค่ะ จึงจะรับครอบครัวมาอยู่ด้วยกันได้
- กฎหมายการกระจายผู้ลี้ภัย (Spreidingswet) ถูกยกเลิก — กฎหมายตัวนี้เป็นความริเริ่มของรัฐบาลเก่า เนื่องจากศูนย์ลงทะเบียนผู้อพยพที่ Ter Apel มีพื้นที่ไม่พอรองรับผู้อพยพ และภายในศูนย์ก็แออัด ไม่ปลอดภัย — รัฐบาลจึงแก้ปัญหาด้วยการกระจายผู้อพยพไปยังพื้นที่ต่างๆ และบังคับให้เทศบาลทุกแห่งต้องรับผู้อพยพในสัดส่วนต่างๆ กันตามเกณฑ์ค่ะ ซึ่งกฎหมายตัวนี้ พรรค PVV คัดค้านอย่างรุนแรง
- เนรเทศผู้อพยพที่ไม่มีใบอนุญาตพำนักอย่างถูกต้องด้วยกำลัง
- การต่ออายุใบอนุญาตพำนักสำหรับคนที่ถือใบอนุญาตพำนักแบบ onbepaalde tijd จากเดิม 5 ปี เลื่อนเป็น 10 ปี — เดิมทีผู้มีสถานะลี้ภัยจะได้ใบอนุญาตพำนักแบบชั่วคราว 5 ปี และพอครบเวลา ถ้ายังไม่ได้สัญชาติ ก็จะได้ใบอนุญาตพำนักแบบไม่จำกัดเวลา ( onbepaalde tijd) โดยอัตโนมัติ — แต่นโยบายใหม่นี้ที่ออกมา แปลว่า ผู้อพยพถึงแม้จะอยู่ที่นี่มานาน แต่ถ้าทันทีที่ประเทศต้นทางปลอดภัย พวกเขาก็ต้องกลับค่ะ
- เพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมชายแดน
การต่างประเทศและกลาโหม
- ยังคงสนับสนุนยูเครน ทั้งด้านการทหาร และการเงิน
- งบกลาโหมเพิ่มจากปีที่แล้วเล็กน้อย เป็น 22 พันล้านยูโร เงินจะใช้ไปในการปรับปรุงและต่ออายุอุปกรณ์ให้มีความทันสมัย กลาโหมยังต้องการเงินจำนวนมากในระยะยาวในการชักจูงบุคลากรใหม่ๆ ให้มาทำงานด้วยค่ะ
- ยังอยู่ในสหภาพยุโรป
- ความช่วยเหลือด้านการพัฒนาถูกตัดงบ เน้นไปที่การช่วยเหลือด้านการจัดการน้ำและอาหารเป็นหลัก ลดบุคลากรในสถานกงสุลและสถานทูต 10 เปอร์เซ็นต์
- ห้ามการจัดหาเงินทุนจากต่างประเทศโดยแอบแฝง เช่น ผ่านสมาคม มูลนิธิ โบสถ์ และองค์กรนอกระบบของเนเธอร์แลนด์
- กฎหมายอาญาเยาวชนเข้มขึ้น เพิ่มโทษจำคุกสูงสุดสำหรับเด็กอายุ 14-15 ปี รัฐบาลกำลังหาทางเลือกเพิ่มเติมเพื่อให้ผู้ปกครองต้องรับผิด หากบุตรหลานของตนก่ออาชญากรรม
การยุติธรรมและความมั่นคง
- เพิ่มงบให้หน่วยความมั่นคง และข่าวกรอง AIVD และ MIVD
- มีการฝึกซ้อมในช่วงวิกฤตและการประชุมสุดยอดด้านความปลอดภัยซึ่งจะมีการหารือเกี่ยวกับมาตรการต่างๆ
- ตำรวจและบริการอัยการจะมีบทบาทมากขึ้นในการจัดการกับการจารกรรม
- ห้ามการนำเข้าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และบริการจากประเทศที่เป็นศัตรูทางไซเบอร์กับเนเธอร์แลนด์
- เพิ่มบทลงโทษสำหรับอาชญากรรมการก่อการร้าย
ที่อยู่อาศัยและการเคหะ
- เนื่องจากเนเธอร์แลนด์กำลังประสบปัญหาวิกฤตที่อยู่อาศัย รัฐมุ่งมั่นว่าจะสร้างบ้านเพิ่ม 100,000 หลังทุกปี โดยรัฐบาลจะเข้มงวดกับเทศบาล จังหวัด หรือใครก็ตามที่ทำให้การก่อสร้างล่าช้า
- ทุ่ม 2.5 พันล้านยูโร เพื่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวก สาธารณูปโภคสำหรับโปรเจคก่อสร้างที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่ที่กำลังออกแบบ — 🙋🏻♀️ คือสร้างถนนหนทาง ไฟฟ้า อะไรต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกดึงดูดคนที่จะมาซื้อบ้านในโครงบ้านที่กำลังจะสร้างค่ะ
- รัฐบาลหวังว่า โครงการก่อสร้างที่ปล่อยออกไซต์ของไนโตรเจนเป็นปริมาณน้อย จะสามารถดำเนินการได้เลยโดยไม่ต้องขอใบอนุญาต
- ปี 2026 ภาษีโอนบ้านลดลง จากเดิมจ่าย 10.4 เปอร์เซ็นต์ของราคาบ้าน เหลือ 8 เปอร์เซ็นต์ รัฐหวังว่า วิธีนี้จะจูงใจให้คนลงทุนซื้อบ้านเพื่อปล่อยเช่าเพิ่มขึ้น
คมนาคม และโครงสร้างพื้นฐาน
- ปีหน้า ตั๋วรถไฟ NS ขึ้นราคาอีก 6 เปอร์เซ็นต์ (เดิมจะขึ้น 12 เปอร์เซ็นต์ — แต่ NS กับกระทรวงฯ แบ่งรับภาระจ่ายครึ่งหนึ่งค่ะ ที่เหลืออีก 6 เปอร์เซ็นต์ ผู้โดยสารจ่าย)
- ปี 2027 จะมีภาษีที่เรียกว่า “gedifferentieerde vliegbelasting” แปลว่า ภาษีการบินจะเพิ่มขึ้น สำหรับเที่ยวบินระยะยาวที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากกว่า
- มีวาระเรื่องเพิ่มความเร็วสูงสุดที่วิ่งได้บนทางด่วนเป็น 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ยังไม่ชัดเจนว่าจะเริ่มเมื่อไร
- การเติบโตอย่างต่อเนื่องระยะยาวของสนามบิน Schiphol เป็นไปได้ด้วยเครื่องบินที่เงียบขึ้น และสะอาดกว่าเดิม
เกษตรกรรม การประมง ความมั่นคงทางอาหาร และสิ่งแวดล้อม
- รัฐบาลนี้ผ่อนคลายความเข้มงวดเรื่องการปล่อยออกไซต์ของไนโตรเจนในภาคเกษตรกรรมค่ะ และจะมีเกณฑ์การวัดอัตราการปล่อยออกไซต์ของไนโตรเจนแบบใหม่ออกมา แต่ยังไม่มีรายละเอียด
- รัฐบาลจะหาทางให้โครงการขนาดเล็ก ที่มีการปล่อยออกไซต์ของไนโตรเจนในปริมาณน้อย ไม่จำเป็นต้องขอใบอนุญาตก่อสร้างค่ะ
- รัฐบาลจะไม่ตั้งเป้าบังคับให้ฟาร์มขนาดเล็กต้องบรรลุเป้าหมายในการลดการปล่อยออกไซต์ของไนโตรเจน
- ข้อตกลงการเวนซื้อคืนฟาร์มปศุสัตว์ของรัฐบาลที่แล้วยังคงอยู่
- ลดปริมาณมูลสัตว์ด้วยการ “afroming van dierenrechten” (🙋🏻♀️ ไม่เข้าใจตรงนี้เหมือนกัน แต่น่าจะคือการลดจำนวนสัตว์ในฟาร์มลง???)
- รัฐบาลชุดนี้จะมุ่งเน้นไปที่นวัตกรรม และความมั่นคงทางด้านอาหาร และผ่อนคลายเรื่องกฎการปล่อยออกไซต์ของไนโตรเจนที่ยุโรปบังคับค่ะ — แล้วรัฐบาลจะไปรับหน้าคุยกับอียูอีกที
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและพลังงาน
- เอาฟาร์มกังหันลมไปอยู่ในทะเล แทนที่จะอยู่บนบกค่ะ เป็นฟาร์มกังหันลมในทะเล โดยรัฐบาลจะดำเนินการโดยคำนึงถึงผลกระทบต่อการประมงเป็นอันดับแรก
- ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมให้ได้ 50 กิกะวัตต์ ภายในปี 2040
- ไม่ดึงแก๊สจากบ่อแก๊สใต้เมือง Groningen
- แต่ขยายการสกัดแก๊สในทะเลเหนือแทน
- จัดสรรเงิน 9.5 พันล้านยูโรสำหรับสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เพิ่มอีก 2 แห่ง
- จัดงบ 60 ล้านยูโร ช่วยผู้มีรายได้น้อยจ่ายค่าไฟฟ้า
- ลดภาษีแก๊ส และไฟฟ้า
- ยกเลิกเงินอุดหนุนสำหรับผู้ซื้อรถไฟฟ้า
ภาษี
- ปรับขั้นบันไดของรายได้ต่อภาษีเล็กน้อยค่ะ
- รายได้เริ่มต้นถึง 38,441 ยูโรต่อปี จ่ายภาษี 35.82 เปอร์เซ็นต์
- รายได้ส่วน 38,441 ถึง 76,816 ยูโร (เดิมคือ 76,000 ยูโร) จ่ายภาษีส่วนนี้ 37.48 เปอร์เซ็นต์
- ส่วนที่สูงกว่านั้นยังจ่ายคงเดิมเหมือนปีนี้
- ปี 2026 ภาษีมูลเพิ่มของสินค้าพวกหนังสือ ร้านอาหาร การให้บริการ ศิลปะวัฒนธรรม และกีฬา จะกลับมาอยู่ที่ 21 เปอร์เซ็นต์ เหมือนเช่นก่อนวิกฤติโคโรน่าค่ะ (ตอนนี้อยู่ที่ 9 เปอร์เซ็นต์)
อ้างอิง:
- Prinsjesdagblog — https://nos.nl/collectie/13979/liveblog/2537401-reacties-op-miljoenennota-schoof-tijd-nodig-voor-plannen
- Dit zijn de plannen en voornemens van het kabinet-Schoof — https://nos.nl/collectie/13979/artikel/2537546-dit-zijn-de-plannen-en-voornemens-van-het-kabinet-schoof
- Kabinet ambitieus over asiel en bouwen, maar stuit bij mest op grenzen — https://nos.nl/artikel/2536995-kabinet-ambitieus-over-asiel-en-bouwen-maar-stuit-bij-mest-op-grenzen
- Dit betekent Prinsjesdag 2024 voor je portemonnee — https://www.nu.nl/economie/6328530/dit-betekent-prinsjesdag-2024-voor-je-portemonnee.html