สวัสดีค่ะ หายไปนานเลย…ออยมัวยุ่งกับการสอบอยู่ค่ะ เดี๋ยวจะมาเขียนเล่าให้ฟังว่า สอบอะไร สอบยังไง แต่บทความวันนี้ขอเขียนเรื่องการขอวีซ่าระยะยาวมาอยู่เนเธอร์แลนด์ก่อนนะคะ ระยะยาวในที่นี้ หมายถึงมาอยู่เกิน 3 เดือนค่ะ สำหรับสาวๆ เมื่อตัดสินใจแล้วว่า จะย้ายมาอยู่กับคนรักที่เนเธอร์แลนด์ ก็เริ่มต้องหาข้อมูลกันแล้วล่ะค่ะว่า ต้องทำอย่างไร ความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ รัฐบาลดัตช์นี่เคี่ยวที่สุดในยุโรปเลยค่ะ ในการให้วีซ่าระยะยาวมาอยู่กับคนรัก เพราะต้องผ่านเงื่อนไขสำคัญ 2 เงื่อนไข คือ ฝ่ายต่างชาติต้องสอบภาษาและวัฒนธรรมดัตช์เบื้องต้นให้ผ่าน ส่วนฝ่ายดัตช์ก็ต้องมีเงิน งานประจำ มีรายได้ไม่น้อยกว่ารายได้ขั้นต่ำที่รัฐบาลกำหนด..ออยขอรวบรวมเป็นขั้นตอนการยื่นขอวีซ่าง่ายๆ ดังนี้ค่ะ 1. สอบ MVV สำหรับประเทศนี้ หากอยากย้ายมาอยู่ระยะยาว ด้วยเหตุผลของการมาอยู่กับคนรัก จะต้องเริ่มด้วยการสอบภาษาดัตช์ให้ผ่านขั้นต่ำระดับ A1 ก่อนค่ะ (คนที่มาด้วยเหตุผลการศึกษาต่อ หรือมาทำงาน ข้ามข้อนี้ไปได้เลยค่ะ ไม่ต้องสอบ) การสอบนี้เรียกทางการว่า basisexamen inburgering buitenland ข้อสอบปัจจุบันเปลี่ยนเป็นสอบด้วยระบบคอมพิวเตอร์แล้ว และเปลี่ยนผู้รับผิดชอบในการสอบจากเดิมคือ กระทรวงการต่างประเทศ (IND) มาเป็น กระทรวงศึกษาธิการ (DUO) ข้อสอบเเบ่งออกเป็น 3 ทักษะค่ะ คือ 1) ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประเทศเนเธอร์แลนด์ ค่าสอบ 100 ยูโร 2) ทักษะการอ่าน ค่าสอบ 100 ยูโร และ 3) ทักษะการพูด ค่าสอบ 150 ยูโร…สอบไม่ผ่านในส่วนไหน สอบซ่อม จ่ายค่าสอบเเค่เฉพาะส่วนนั้นที่ไม่ผ่านเท่านั้นค่ะ…เท่าที่ได้ยินมา คนไทยมักจะสอบตกในส่วนทักษะการพูดค่ะ ดังนั้นต้องฝึกเยอะๆ ค่ะ ฝึกทำข้อสอบ เตรียมตัวสอบ…
"ย้ายมาอยู่เนเธอร์แลนด์…ขอวีซ่าระยะยาว MVV"Tag: The Netherlands
สวัสดีค่ะ หายไปนานเลย มัวแต่วุ่นวายกับการสอบสารนิพนธ์ และ TOEIC อยู่ค่ะ ตอนนี้ ขณะที่เขียน blog อยู่นี้ ก็ยังอยู่ที่เมืองไทย ยังไม่ได้กลับไปฮอลแลนด์แต่อย่างใด (แปลนว่าถ้าแก้สารนิพนธ์เสร็จ ก็จะบินแล้วล่ะ) ตอนนี้เลยขอนำความประทับใจที่ได้ไปเที่ยวประเทศเนเธอร์แลนด์เมื่อปีที่แล้ว มาให้ดูกันก่อนพลางๆ ค่ะ เมื่อเดือนตุลาคม ปีที่แล้ว ได้มีโอกาสไปเที่ยวเมือง Alkmaar ซึ่งเป็นเมืองทางเหนือของประเทศเนเธอร์แลนด์ค่ะ เมืองนี้อ่านออกเสียงประมาณว่า “อัล-คา-มาร์” เป็นเมืองที่อยู่ในจังหวัด Noord Holland ค่ะ เมืองนี้ขึ้นชื่อในเรื่อง “ชีสสสส…” ค่ะ แต่น่าเสียดาย วันที่เราไปกันนั้น เราไปถึงที่นั่น หลังสี่โมงเย็นแล้วค่ะ ตลาดชีสและพิพิธภัณฑ์ปิดแล้ว ที่มา www.wikipedia.com ลักษณะของเมือง มีคลองเล็กๆ ล้อมรอบ (สังเกตในส่วนที่ไปเที่ยวนะคะ) ในภาพด้านล่างเป็นแผนที่ของเมือง ถ่ายจากหน้าพิพิธภัณฑ์ค่ะ ถนนในเมืองจะแคบๆ บ้านอยู่กันหลังเล็กๆ แคบๆ เหมือนทาวน์เฮ้าบ้านเรา เนื่องจากสถานที่แคบ ดังนั้นจึงสังเกตว่า เมืองนี้ มีแมวเยอะมากค่ะ เยอะกว่าหมา คงเนื่องจากว่า แมวไม่ได้ต้องการสถานที่วิ่งเล่นมากเหมือนหมา เเมววิ่งเล่นบนหลังคาบ้านไปมาก็ได้ ในฐานะคนรักแมว ชอบเมืองนี้มากค่ะ เท่าที่สังเกต แมวดัตช์นี้ ตัวใหญ่กว่าแมวไทยบ้านเรามากกกก… ในรูป แมวมักจะชอบอาบแดดบนรถที่จอดอยู่หน้าบ้านน่ะค่ะ เจอแล้ว ก็ขอเล่นด้วยสักหน่อย เมื่อเราเดินมาตามถนนหลัก (ขนาดประมาณซอยบ้านเรา) ที่ชื่อ Langestraat มาเรื่อยๆ ประมาณกลางๆ จะเจอ Town Hall ค่ะ…
"เที่ยวไปทางเหนือ : Alkmaar"ขอโทษที่หายไปนานเลยค่ะ ช่วงปีใหม่ ไม่ได้ไปเที่ยวไหนกะใครหรอกค่ะ นั่งหน้าเงียกอยู่กับการทำรายงานสารนิพนธ์ ในที่สุดก็เสร็จ ส่งอาจารย์เรียบร้อย! ตอนนี้รายงานของออยก็กลายเป็นปัญหาของอาจารย์เรียบร้อยแล้วล่ะ 555 blog นี้ ขอเล่าเรื่องเมือง Utrecht ที่มีโอกาสได้ไปเที่ยวมาค่ะ Utrecht เป็นเมืองใหญ่ที่อยู่ประมาณตอนกลางๆ ของประเทศเนเธอแลนด์ค่ะ ดังนั้นบ่อยครั้งในการเดินทางด้วยรถไฟ ออยซึ่งอยู่ Eindhoven จะต้องมาแวะต่อรถไฟที่สถานีรถไฟของเมืองนี้ ในภาพ (ยืมมาจาก wikiwedia) คือแผนที่แสดงให้เห็นจังหวัด Utrecht ค่ะ ที่มา www.wikipedia.org มาแวะต่อรถไฟที่เมืองนี้ ก็หลายครั้ง แต่ยังไม่เคยได้เดินไปนอกสถานีรถไฟเลยค่ะ วันนี้ (25 กันยายน 2012) สบโอกาส เลยแวะชมเมืองนี้สักหน่อย Utrecht เป็นเมืองใหญ่ (ตามมาตรฐานฮอลแลนด์) สังเกตได้ว่า มีร้านสตาร์บัคตั้ง 2 ร้านแนะ (Eindhoven ไม่มีสตาร์บัคค่ะ) และสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของเมืองนี้ คือ De Dom ที่กำลังจะพาไปชมนี่แหละค่ะ De Dom คือโบสถ์นิกายโปรเตสแตนต์ เป็นโบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุด และสูงที่สุดของประเทศเนเธอร์แลนด์ค่ะ ก่อสร้างขึ้นเมื่อประมาณศตวรรษที่ 14 ปัจจุบันกลายเป็นสัญลักษณ์ของเมือง เมื่อก่อน โบสถ์นี้มีหลายอาคารค่ะ แต่ในปี 1674 De Dom ได้รับความเสียหายจากพายุ ทำให้อาคารบางส่วนพังลง และไม่ได้ซ่อมแซม เปลี่ยนส่วนที่พังนั้น ให้เป็นถนนแทน ดังนั้น เนื้อที่ของโบสถ์จึงถูกแยกออกเป็นสองส่วน โดยมีถนนคั่นกลาง เดินออกจากสถานีรถไฟ…
"เที่ยวไปในฮอลแลนด์ : De Dom, Utrecht"มาถึงตอนที่ 2 กันค่ะ สำหรับเทศกาลดอกไม้ Florade ของประเทศเนเธอร์แลนด์ อย่างที่เคยเล่าให้ฟังว่า คนประเทศนี้เขารักดอกไม้กันมาก ดังนั้นงานในครั้งนี้จึงได้รับความสนใจจากคนดัตช์มากเลยทีเดียว เนื้อที่การจัดงานก็กว้างใหญ่มาก ประมาณ 65 เฮกเตอร์ ส่วนแนวคิดหรือธีมในงานครั้งนี้ ก็คือ “Be part of the theatre of nature, get closer to the quality of life” แปลเป็นไทยกากๆ ได้ประมาณว่า “ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโรงละครแห่งธรรมชาติ ได้ใกล้ชิดกับคุณภาพแห่งชีวิต” ความเดินตอนที่เเล้ว หลังจากที่เดินกันเมื่อย เราก็นั่งเคเบิ้ลคาร์กัน แล้วเราก้มาตระหนักเอาอีกตอนทางลง ว่าเคเบิ้ลคาร์อันนี้ ทุกคนต้องลง และหากจะกลับก็ต้องซื้อตั๋วใหม่ อ้าว… มันไม่ได้ใกล้ๆ นา เหตุผลที่เราอยากกลับไปที่เดิม ก็เพราะเราอยากเดินไปดูอาคาร Green Engine ซึ่งภายในอาคารนี้ จะมีดอกกล้วยไม้สวยๆ มาแสดง และมีสวนของประเทศไทยอยู่ด้วย… เซ็งเลย ดอกกุหลาบสีสวย ถ่ายตรงจุดลงจากเคเบิ้ลคาร์ค่ะ สวนแบบดัตช์ค่ะ แฟนเรียกว่า “Chaos Garden” เขาตั้งใจให้เป็นแบบนี้นะคะ มันมาจากการเอาเมล็ดพันธ์ดอกไม้หลายๆ ชนิดมาผสมกัน แล้วหว่านลงบนพี้นดิน ซึ่งแตกต่างจากสวนแบบไทยที่เราคุ้นเคย ที่ดูจะเป็นระเบียบกว่า แปลงดอกอะไร ก็มีแต่ดอกชนิดนั้น แต่แบบนี้ ฝรั่งเขามองว่าสวยค่ะ ดูเป็นธรรมชาติดี กระถางดอกไม้ที่จัดแสดงในอาคาร Green Engine ค่ะ สวยมาก ดอกกล้วยไม้ที่จัดภายในอาคาร…
"เทศกาลดอกไม้ Floriade2012 (2)"